DIARY NO. 7
Monday 23 Sptember 2019
Knowledge summar สรุปความรู้
วันนี้นำเสนอเกี่ยวกับนวัตกรรมการศึกษาที่ได้รับมอบหมายในแต่ละกลุ่ม
โดยวันนี้มีการนำเสนอ 5 กลุ่ม
👉กลุ่มที่ 5
นำเสนอนวัตกรรมแบบ EF ( Executive Functions) “เซคเช้า”
👉กลุ่มที่ 5
นำเสนอนวัตกรรมแบบ EF ( Executive Functions) “เซคบ่าย”
👉กลุ่มที่ 3 นำเสนอนวัตกรรมแบบ Project Approach “เซคบ่าย”
👉กลุ่มที่ 4 นำเสนอนวัตกรรมแบบ STEM Science Technology Engineering
and
Mathematics Educaation “เซคเช้า”
👉กลุ่มที่ 6 นำเสนอนวัตกรรมแบบ มอนเตสเซอรี่ Montessori“เซคเช้า”
💦กลุ่มที่ 5
นำเสนอนวัตกรรมแบบ EF ( Executive Functions) “เซคเช้า”💦
เป็นกระบวนการทางความคิดในสมองส่วนหน้า
ที่เกี่ยวข้องกับ ความคิด ความรู้สึก การกระทำ
เป็นความสามารถของสมองที่ใช้บริหารจัดการในชีวิตเรื่องต่างๆ
ซึ่งจะช่วยให้สามารถตั้งเป้าหมายในชีวิต รู้จักวางแผน มีความมุ่งมั่น
จดจำสิ่งต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ รวมทั้งรู้จักริเริ่มลงมือสิ่งๆต่างๆอย่างเป็นขั้น
🍄EF ที่สำคัญมีทั้งหมด 9 ด้าน คือ
✒1.ทักษะความจำที่นำมาใช้งาน คือ
ทักษะจำหรือเก็บข้อมูลจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
และดึงมาใช้ประโยชน์ตามสถานการณ์ที่พบเจอ
✒2.ทักษะการยับยั้งชั่งใจ หรือ คิดไตร่ตรอง
คือ ความสามารถในการควบคุมความต้องการของตนเองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
✒3.ทักษะการยืดหยุ่นความคิด คือ ความสามารถในการยืดหยุ่นหรือปรับเปรี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ไม่ยึดติกตายตัว
✒4.ทักษะการใส่ใจจดจ่อ คือ
ความสามารถที่ใส่ใจจดจ่อ
มุ่งความสนใจอยู่กับสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง
✒5.การควบคุมตันเอง คือ
ความสามารถในการควบคุมตนเองทางอารมณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
✒6.การประเมินตนเอง คือ
การสะท้อนการกระทำของตนเอง รู้จักตนเอง รวมถึงการประเมินการงานเพื่อหาข้อบกพร่อง
✒7.การริเริ่มและลงมือทำ คือ
ความสามารถในการริเริ่มและลงมือกระทำตามที่คิด ไม่กลัวความล้มเหลว
ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
✒8.การวางแผนและการจัดระบบดำเนินการ คือ
ทักษะการทำงาน ตั้งแต่ตั้งเป้าหมาย การวางแผน การมองเห็นภาพ
✒9.การมุ่งเป้าหมาย คือ
ความพากเพียงมุ่งสู้เป้าหมาย เมื่อตั้งใจและลงมือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
มีความอดทนมุ่งมั่น ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆ
🍄เทคนิคในการสร้าง EF คือ
🚩ตัวต่อบล็อกไม้
🚩เลโก้
🚩หมากฮอส
🚩จิ๊กซอว์
🚩ของเล่นสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม
อีกเทคนิคที่ทำให้เด็กไม่เครียด
คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่กดดัน สร้างความเป็นมิตร
เมื่อเด็กน้อยรู้สึก HAPPY ก็จะรู้สึกสบายใจ
และเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการเล่นของเล่นที่บ้าน เกิดความกล้าคิดทำในสิ่งต่างๆ
💦กลุ่มที่ 5
นำเสนอนวัตกรรมแบบ EF ( Executive Functions) “เซคบ่าย”💦
🌷 EFคืออะไร ( Executive Function )
เกี่ยวข้องกับพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างไร เราจะ
มีวิธีส่งเสริมพัฒนาการด้านนี้ได้อย่างไร เรามาเรียนรู้พร้อมกันนะคะ E F =
( Executive Function ) คือ การทำงานของสมองด้านการจัดการ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในชีวิต
"ฟังดูน่าสนใจมาก"โดยอาศัยกระบวนทางปัญญา(cognitive process) ต่างๆ เช่น การยับยั้งความคิด การแก้ปัญหา การวางเป้าหมาย
การวางแผนไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ( goal - directed behavior)
🌷สรุปคือ เป็นความสามารถในการควบคุมความคิดของตนเองนั่นเอง เช่น
มีรูปแบบความคิดที่หลากหลาย การคิดนอกกรอบ
ความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดและความสนใจตามสถานการณ์
และการปฏิบัติตามคำสั่งที่ซับซ้อน
🌷 "มนุษย์เราไม่ได้เกิดมาพร้อมทักษะ EF
แต่เราเกิดมาพร้อมศักยภาพที่จะพัฒนาทักษะเหล่านี้ได้
ผ่านการฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การวิจัยจำนวนไม่น้อยชี้ให้เห็นว่า EF เริ่มพัฒนาขึ้นในเวลาไม่นานหลังปฏิสนธิ โดยช่วงวัย 3-6 ขวบ
เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการพัฒนาทักษะ EF ด้านต่างๆ
ให้กับเด็ก เพราะเป็นช่วงที่สมองส่วนหน้าพัฒนามากที่สุด"
🌷 และพ่อแม่จะพัฒนาทักษะนี้ให้ลูกอย่างไร
รศ.ดร.นวลจันทร์แนะว่า พ่อแม่ยังต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อน
ให้ความรักความอุ่นเขาตามปกติ เพราะถ้าเด็กการรับรู้ไม่ดี
ประสาทสัมผัสทั้งหลายไม่ดี เขาก็ยากที่จะพัฒนา EF ได้
💦กลุ่มที่
3 นำเสนอนวัตกรรมแบบ Project Approach “เซคบ่าย”💦
🌼การสอนแบบโครงการหรือแบบโครงงาน
Project
Approach วงการศึกษาของไทยใช้ชื่อ
“การสอนแบบโครงการ”
ในระดับปฐมวัยศึกษาหรือระดับอนุบาลศึกษา
และ ใช้ชื่อ การสอนแบบโครงงาน ในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา
การสอนดังกล่าวเป็นวิธีการหนึ่งในหลายวิธีที่ส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้โดยการสร้างความรู้ด้วยตนเอง
นับเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการปฏิบัติที่เหมาะสมและการเรียนรู้ที่มีความหมายเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นของเด็กปฐมวัย
🌼ความหมายของโปรเจคแอพโพส
(Project
Approach) คือวิธีการสอนรูปแบบหนึ่งที่ได้ให้โอกาสเด็กปฐมวัยเรียนรู้โดยการสืบค้นข้อมูลอย่างลึกในหัวเรื่องที่เด็กสนใจ มีค่าต่อการเรียนรู้
การสืบค้นอาจทำโดยเด็กกลุ่มเล็ก ๆ หรือเด็กทั้งชั้นร่วมกันหรืออาจเป็นเพียงเด็กคนใดคนหนึ่ง
เพื่อหาคำตอบจากคำถามที่เด็กร่วมกันคิดด้วยกันกับเพื่อนหรือร่วมกันคิดกับครู และทำให้เกิดกระบวนการสืบค้นขึ้นมา
ทั้งนี้หัวเรื่องที่นำมาสืบค้นมักจะมีความหมายต่อตัวเด็ก เช่น บ้าน
รถยนต์ รถเมล์ เครื่องบิน
โรงพยาบาล เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถบูรณาการเข้าในหลักสูตรปฐมวัยได้หลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับครูและสถานศึกษาที่นำไปใช้ หรือบูรณาการเนื้อหาเกี่ยวกับ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
รวมทั้งภาษา ในขณะทำโครงการได้
🌻🌻การนำแนวคิดการสอนแบบโครงการประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน🌻🌻
ในระดับปฐมวัยศึกษา หรือการสอนแบบโครงการจะปรากฏกิจกรรม 5
ลักษณะประกอบด้วย
👉1.การอภิปราย ในงานโครงการครูสามารถแนะนำการเรียนรู้ให้เด็ก
และช่วยให้เด็กแต่ละ
คนมีโอกาสแลกเปลี่ยนสิ่งที่ตนทำกับเพื่อน การพบปะสนทนากันในกลุ่มย่อย
หรือกลุ่มใหญ่ทั้งชั้นทำให้เด็กมีโอกาสที่จะอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน
👉2.การศึกษานอกสถานที่
หรืองานในภาคสนาม
เป็นกระบวนการที่สำคัญของการทำ
โครงการประสบการณ์ในระยะแรกครูอาจพาไปศึกษานอกห้องเรียน
เรียนรู้สิ่งก่อสร้างต่างๆที่อยู่รอบบริเวณโรงเรียนเช่น ร้านค้า
ถนนหนทาง ป้ายสัญญาณ งานบริการต่าง ๆ ฯลฯ
จะช่วยให้เด็กเข้าใจโลกที่แวดล้อม
มีโอกาสพบปะกับบุคคลที่มีความรู้เชี่ยวชาญในหัวเรื่องที่เด็กสนใจ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ขั้นแรกของงานศึกษาค้นคว้า
👉3.การนำเสนอประสบการณ์เดิม เด็กสามารถทบทวนประสบการณ์เดิมในหัวเรื่องที่
น่าสนใจ
มีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นในประสบการณ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกับเพื่อน
รวมทั้งแสดงคำถามที่ต้องการสืบค้นในหัวเรื่องนั้นๆ นอกจากนี้เด็กแต่ละคนสามารถที่จะเสนอประสบการณ์ที่ตนมีให้เพื่อนในชั้นได้รู้ด้วยวิธีการอันหลากหลายเสมือนเป็นการพัฒนาทักษะเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ การเขียน
การใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ การเล่นบทบาทสมมติ และการก่อสร้างแบบต่าง ๆ
👉4.การสืบค้น งานโครงการเปิดกว้างให้ใช้แหล่งค้นคว้าข้อมูลอย่างหลากหลายตามหัว
เรื่องที่สนใจเด็กสามารถสัมภาษณ์พ่อแม่ ผู้ปกครองของตนเอง บุคคลในครอบครัว
เพื่อนนอกโรงเรียน
สามารถหาคำตอบของตนด้วยการศึกษานอกสถานที่
สัมภาษณ์วิทยากรท้องถิ่นที่มีความรอบรู้ในหัวเรื่อง อาจสำรวจ
วิเคราะห์วัตถุสิ่งของตนเอง เขียนโครงร่าง
หรือใช้แว่นขยายส่องดูวัตถุต่าง ๆ
หรืออาจใช้หนังสือในชั้นเรียนหรือในห้องสมุดทำการค้นคว้า
👉5.การจัดแสดง
การจัดแสดงทำได้หลายรูปแบบ อาจใช้ฝาผนังหรือป้ายจัดแสดงงานของ
เด็ก
เป็นการแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ที่ได้จากการสืบค้นแก่เพื่อนในชั้น ครูสามารถให้เด็กในชั้นได้รับทราบความก้าวหน้าในการสืบค้นโดยจัดให้มีการอภิปราย
หรือการจัดแสดงทั้งจะเป็นโอกาสให้เด็กและครูได้เล่าเรื่องงานโครงการที่ทำแก่ผู้มาเยี่ยมเยียนโรงเรียนอีกด้วย
💦กลุ่มที่ 4 นำเสนอนวัตกรรมแบบ STEM
Science Technology Engineering
and Mathematics Educaation “เซคเช้า”💦
🍀เป็นรูปแบบการจัดการศึกษาที่บูรณาการกลุ่มสาระและทักษะกระบวนการของทั้ง
4 สาระ อันได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์
โดยนำลักษณะธรรมชาติของแต่
ละสาระวิชาและกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนมาผสมผสานกันเพื่อให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่สำคัญและจำเป็น
เกิดจากการย่อชื่อตัวอักษรตัวแรกของ 4 สาระเข้าด้วยกัน
🌺Science(วิทยาศาสตร์)
จะเน้นให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า
กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (InquiryProcess) ที่จะประกอบด้วยขั้นตอน
🍁 1.
ขั้นการสร้างความสนใจ เป็นขั้นของการนำเข้าสู่บทเรียน
🍁 2.
ขั้นสำรวจและการค้นหา
🍁 3.
ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป
🍁 4.
ขั้นขยายความรู้
เป็นการนำความรู้มาเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือแนวคิดที่ได้ค้นคว้าเพิ่มเติม
🍁 5.
ขั้นการประเมิน เป็นการประเมินการเรียนรู้ด้วยกระบวนการต่างๆ
🌺เทคโนโลยี (Technology) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2557)
ระบุขั้นตอนในกระบวนการทางเทคโนโลยีประกอบด้วย 7 ขั้นดังนี้
🍁 1.
กำหนดปัญหาหรือความต้องการ
🍁 2.
รวบรวมข้อมูล โดยอาจจะรวบรวมข้อมูลจากตำรา วารสาร บทความ อินเทอร์เน็ต
🍁 3.
เลือกวิธีการ เป็นการพิจารณาเลือกวิธีที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการแก้ปัญหา
🍁 4.
ออกแบบและปฏิบัติการ
🍁 5.
ทดสอบ เป็นการตรวจสอบว่าชิ้นงานหรือวิธีที่สร้างขึ้นสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่
🍁 6.
ปรับปรุงแก้ไข เป็นการวิเคราะห์ว่าชิ้นงานหรือวิธีที่สร้างขึ้นจะปรับแก้ไขส่วนใด
🍁 7.
ประเมินผล
เป็นการประเมินผลว่าชิ้นงานหรือวิธีที่สร้างขึ้นสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่
🌺วิศวกรรมศาสตร์(Engineering) กระบวนการออกแบบของวิศวกรรมศาสตร์
ประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้
🍁 1.กำหนดปัญหา หรือความต้องการ
🍁 2.หาแนวทางการแก้ปัญหา
🍁 3.ลงมือปฎิบัติเพื่อแก้ปัญหา
🍁 4.ทดสอบและประเมินผล
🌺คณิตศาสตร์ (Mathematics) สำหรับสาระและทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์จะ ครอบคลุมเรื่องจำนวนและกระบวนการ
การวัด เรขาคณิต พีชคณิต การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น และ
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
🍄บทบาทของคณิตศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) จะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา
การคิดเป็นเหตุเป็นผล ทักษะการคิดสร้างสรรค์
ทักษะการสื่อสารและการนำเสนอให้ผู้อื่นเข้าใจได้
💦กลุ่มที่ 6 นำเสนอนวัตกรรมแบบ มอนเตสเซอรี่ Montessori“เซคเช้า”💦
🌹การสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori)
เป็นแนวคิดที่เน้นเด็กเป็นหลักสำคัญในการจัดการเรียนการสอน
เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้อย่างอิสระ
และซึมซับการเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว ทำให้เด็กเกิดความอยากรู้
อยากเห็นและแสวงหาความอยากรู้อย่างมีสมาธิ มีวินัยในตัวเองและเกิดพัฒนาการทุก ๆ
ด้านในเวลาเดียวกัน
🌴การสอนแบบมอนเตสซอรี่🌴
🌱เริ่มจากการสังเกต
ศึกษาพัฒนาการของเด็กของแต่ละคน
การสอนแบบมอนเตสซอรี่จะไม่เน้นการเรียนรู้แบบท่องจำ
แต่จะเน้นการเล่นหรือการทำกิจกรรมเป็นหลัก โดยการให้เด็กได้เลือกทำกิจกรรมต่าง ๆ
ตามที่ตัวเองสนใจ มอนเตสซอรี่ได้จัดทำอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่หลากหลายตามความสนใจและตามวุฒิภาวะของเด็กที่แตกต่างกัน
ซึ่งจะช่วยพัฒนาทางด้านประสบการณ์ชีวิต งานวิชาการ และทางประสาทสัมผัส เช่น
การแต่งกาย การทำความสะอาด การขัดและอุปกรณ์ในการทำงานบ้าน
สำหรับอุปกรณ์จะมีการออกแบบให้เด็กได้พัฒนาสติปัญญา และพัฒนาการคิดอย่างมีระบบมีเหตุผล
เช่น อุปกรณ์ทางคณิตศาสตร์ อุปกรณ์ทางภาษาและหลักภาษา การมองเห็น การชิมรส
การได้ยิน การดมกลิ่น เป็นความรู้สึกที่ใช้ประสาทสัมผัสร่วมกัน
🌴แนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่🌴
🌱จะเริ่มจากการเรียนรู้แบบรูปธรรมไปสู่แบบนามธรรม
และอุปกรณ์ของมอนเตสซอรี่สามารถนำมาใช้ได้หลายรูปแบบ
อุปกรณ์เป็นสิ่งที่ช่วยควบคุมตัวเด็กในการทำงาน เด็กจะพอใจเมื่อทำงานต่าง ๆ
ได้ถูกต้อง และในการจัดเก็บอุปกรณ์จะต้องมีที่เฉพาะสำหรับวางอุปกรณ์
เพื่อที่เด็กจะได้จัดเก็บอุปกรณ์เข้าที่ให้เรียบร้อย
เมื่อเล่นเสร็จแล้วซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เด็กรู้จักการเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน
🌴หลักการสอนของมอนเตสซอรี่🌴
🌱เด็กได้รับการยอมรับนับถือ
เพราะเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
เด็กจึงควรได้รับการยอมรับในลักษณะเฉพาะของตัวเอง
คุณครูควรจัดกิจกรรมพัฒนาให้เด็กแต่ละคนตามความสามารถ
และพัฒนาการความต้องการตามธรรมชาติของเด็กในแต่ละช่วงวัย
🌰จิตซึมซับ
เด็กมีจิตแห่งการหาความรู้ที่เปรียบเสมือนฟองน้ำ โดยเด็กจะซึมซับเอาข้อมูลต่าง ๆ
จากสิ่งแวดล้อมเข้าไปในจิตของตัวเองช่วงเวลาหลักของชีวิต เด็กแรกเกิดจนถึง 6 ปี
เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดสำหรับการเรียนรู้ของการพัฒนาด้านสติปัญญาและจิตใจ
ในช่วงเวลานี้ เด็กควรมีอิสระในการเลือกกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ
🌰การเตรียมสิ่งแวดล้อม
เด็กจะได้รับการพัฒนาให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีที่สุด
จากการจัดสภาพแวดล้อมที่มีความพร้อมอย่างมีระบบและมีจุดมุ่งหมายไปตามขั้นตอน
โดยมีสื่ออุปกรณ์มอนเตสซอรี่เป็นตัวกำหนดขอบเขตในการทำงาน
🌰การศึกษาด้วยตัวเอง
เด็กได้รู้จักเรียนรู้ระเบียบวินัยของการอยู่ร่วมกันภายในสังคม
และมีอิสระในการทำงาน รู้จักเรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบ
และมีความภาคภูมิใจต่อความสำเร็จในการทำงาน
จนทำให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นและเห็นคุณค่าในตัวเอง
🌰การวัดประเมินผล
คุณครูในชั้นเรียนจะเป็นผู้ประเมินผล
โดยใช้วิธีการสังเกตและวิเคราะห์เด็กเป็นรายบุคคล ในสภาพแวดล้อมที่เป็นจริง
ซึ่งครูผู้มีประสบการณ์และผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการศึกษาแบบมอนเตสซอรี่
จะมีความเชี่ยวชาญในการสังเกต จดบันทึก และวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เรียน
🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
Assessment การประเมินผล
Self
: วันนี้เข้าเรียนตรงเวลาร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อน
Friend : เพื่อนๆช่วยกันนร่วมทำกิจกรรม
Teacher : มีการสอดแทรกเกี่ยวกับข้อเพิ่มเติมในการสอน